Tuesday 15 March 2016

" ชีวิตดีขึ้นเมื่อบุญมาถึง!

    คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าชีวิตจะดีขึ้นก็ต่อเมื่อ มีเงินมาก ร่ำรวยจากการทำธุรกิจต่างๆ แต่ความเป็นจริงแล้วพอคนร่ำรวยมากๆขึ้นก็กลับกลัวว่าใครจะมาปล้นชิงทรัพย์บ้าง  กังวลว่าเมื่อตายไปแล้วลูกหลานจะไม่สามารถรักษาทรัพย์สมบัติของเราได้หรือไม่  เกิดการแย่งชิงสมบัติระหว่างพี่น้องในครอบครัวฆ่าล้างตระกูลกันอย่างที่เป็นข่าวที่ผ่านมา เกิดความทุกข์ใจมากกว่าเป็นสุข แล้วอะไรที่ทำให้ชีวิตมันดีขึ้นจริงๆ



     จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของผมก็ลองอ่านตามแล้วพิจารณาดูนะครับ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร ตามหลักพระพุทธศาสนาจากที่ผมได้มา รับฟังเทศน์จากท่านเจ้าคุณเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย หรือท่านรองเจ้าอาวาสและจากพระอาจารย์ต่างๆ อีกครั้งผมก็ได้ลองศึกษาจากในคัมภีร์พระไตรปิฎกในพระพุทธศาสนาหรืองานเขียนบทความต่างๆจากพระอาจารย์ที่ดังๆ หลายรูปได้สรุปไว้ว่าจะมีปัญญามากเก่งเชียวชาญ มีทีมมีทุนมีที่ ขยันอย่างไรก็แล้วแต่ หากไม่มีบุญบารมีก็ไม่สามารถ ที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ แต่ถ้าหาก สั่งสมบุญบารมีมาก ทั้งในอดีตและปัจจุบันด้วยการให้ทานรักษาศีลและเจริญภาวนาอย่างสม่ำเสมอ ถึงเวลาจังหวะเหมาะ ก็จะส่งเสริมทำให้ ชีวิตการงานเจริญรุ่งเรือง มีความเป็นสุขในครอบครัว ได้ดีขึ้นอย่างทันตาเห็นทั้งในปัจจุบันและในอนาคต



       ผมได้เห็นตัวอย่างจากคนที่ได้มาสร้างบารมีสั่งสมบุญในพระพุทธศาสนาหลายๆท่าน จากที่เคยยากจนชีวิตสับสนวุ่นวายกับการครองคู่ แต่เมื่อได้มาเข้าวัดฟังธรรมทำบุญในพระพุทธสนาอย่างสม่ำเสมอ ครอบครัวก็กลับมาอบอุ่น ดังตัวอย่างนี้ครับ

  ดร. กฤษฎา จ่างใจมนต์ (ดร.เค) และครอบครัว เจ้าของกิจการกาแฟสุขภาพเนเจอร์กิฟ ซึ่งเป็นกาแฟที่ขายดีเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย



     ผมเข้าวัดครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2526 และได้ทำบุญกับวัดเป็นครั้งแรก ด้วยการซื้อที่ดินถวายวัด จำนวน 110 ตารางวา เป็นเงิน 6,875 บาทครับ ต่อมาเมื่อเดือนมกราคม 2539 ผมเห็นภาพวาด “มหาธรรมกายเจดีย์” สิ่งมหัศจรรย์ใหญ่ที่สุดในโลกบนหน้าปกนิตยสารผู้นำการตลาด ภาพที่ 2 ผมก็ไม่รอช้ารีบชวนคุณทัศนีย์(หวานใจของผม) ไปตัดชุดขาว เพื่อมาทำบุญที่วัดและเราก็ได้ลุยสร้างบุญกันถี่ๆทุกบุญ เพราะเรื่องบุญแผ่วไม่ได้ครับ!
    

        ถ้าใครที่เคยได้ศึกษาประวัติชีวิตของผมก็จะทราบดีว่า ผมคืออดีตเด็กสลัมคนหนึ่งที่เช่าห้องเล็กๆ ขนาด 3x4 เมตร จ่ายค่าเช่า เดือนละ 20 บาท อยู่กันอย่างแออัดถึง 8 คน เป็นเวลานานกว่า 20 ปี ถึงทรัพย์จะน้อยแต่สิ่งที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม คือ หัวใจนักสู้และรักในการให้ครับ อ่านบทความ...http://dmc.tv/a19043

Saturday 12 March 2016

การนั่งสมาธิทำให้ชีวิตดีขึ้นอย่างไร?

   ในสังคมปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่ ไปให้ความสำคัญหมดเวลาไปกับเทคโนโลยีต่างๆเช่น การเล่นอินเตอร์เน็ต เล่นโปรแกรม line facebook และการเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ต่างๆเป็นต้น  หลายคนเล่นกันข้ามวันข้ามคืน จนกระทั่งตายจากโลกนี้ไปก็มีเพราะไม่ยอมทานอาหาร ดื่มน้ำเอาชีวิตเดิมพันในการเล่น ที่เห็นเป็นภาพข่าวในสื่อบ่อยๆเพราะความเข้าใจผิดคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดความความสุข 
     จริงๆแล้วมนุษย์ทั้งโลกต้องการความสุขพยายามแสวงหาสิ่งที่จะทำให้เกิดความสุขที่แท้จริงแต่ส่วนใหญ่ก็เข้าใจว่า การได้สิ่งของ ได้คนที่เรารักมาเป็นคู่ครอง การได้เดินทางไปเที่ยวตามที่ต่างๆเป็นต้น ซึ่งสุดท้ายแล้วสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความสุขที่ประกอบด้วยทุกข์ไม่ใช่ความสุขที่แท้ แล้วความสุขที่แท้จริงจะหาได้จากที่ไหน 


 


    ในพระพุทธศาสนา ได้แบ่งร่างกายออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆคือ กายกับใจ กายก็คือปอดตับ ม้าม ไต สมอง แขนขาคืออวัยวะที่สามารถจับต้องได้เหล่านี้รวมเรียกว่าร่างกาย  ส่วนใจหรือดวงใจนั้นอยู่ตรงศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ซึ่ง พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญได้อธิบายไว้ เป็นดวงวงกลม ใสใส อยู่ตรงกลางท้อง ซึ่งอยู่ภายในไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่รู้สึกได้ด้วยตัวของเราเอง  เวลาที่ร่างกายไม่สามารถใช้ได้ก็คือต้องตายจากโลกนี้ แต สิ่งที่ยังไม่ตายไปด้วยนั่นก็คือ ดวงใจที่จะล่องลอย ออกไปแสวงหาภพต่างๆตามแต่บุญและบาปที่กระทำไว้ในปัจจุบัน ซึ่งคนส่วนใหญ่เรียกว่าผีหรือวิญญาณนั้นเอง



   เมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็ควรที่จะให้ความสำคัญกับใจด้วยการหมั่นออกกำลังใจ ร่างกายถ้าอยากแข็งแรง ก็ต้องออกกำลังกายบ่อยๆ จิตใจถ้าจะให้เข้มแข็งสามารถต่อสู้กับอุปสรรคฝ่าฟันเอาชนะได้ ก็ต้องมีกำลังใจที่แข็งแกร่ง แล้วจะทำเช่นไร? วิธีการของพระพุทธศาสนาที่จะทำให้ใจเข้มแข็ง แข็งแกร่งนั่นก็คือ การมาเจริญภาวนาประพฤติปฏิบัติธรรมหรือเรียกว่าสมาธิ (meditation)


    
       เมื่อผมได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้จากการได้มา ฟังธรรมจากท่านเจ้าคุณเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายหรือ หลวงพ่อธัมมชโยและพระอาจารย์ต่างๆทำให้ทราบเรื่องราวเหล่านี้ จนเกิดแรงบันดาลใจที่ไปนั่งสมาธิ ทุกวันโดยไม่ขาดเลยตลอดมากว่า 22 ปี การได้ทำสมาธิบ่อยๆเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ผมมีความยับยั้งชั่งใจจากคนที่ใจร้อนวู่วามก็กลับกลายเป็นคนที่ มีสติเตือนตัวเอง ไม่ทำในสิ่งที่ วู่วามตาม กิเลสตัวเอง ผมสามารถยิ้มได้เมื่อยามเจอกับปัญหา และสามารถแก้ปัญหานั้นได้ลุล่วงไปได้อย่างดี ผมมีกำลังใจในการที่จะดำเนินชีวิตให้ถูกต้องตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนา มีอารมณ์ที่แจ่มใส และได้ความสุขจากการนั่งสมาธิ  เป็นความสุขที่ไม่ต้องแสวงหาไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องเสียเงินใดๆ เป็นความสุขที่ไม่ต้องจ่ายเงินใดๆ เพียงแต่เราหยุดใจทำสมาธิในพื้นที่ที่พอเหมาะกับร่างกายของเราทำได้ทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถทำได้ถ้าหากเราต้องการจะพบความสุขที่แท้จริง



    ปัจจุบันในหลายๆประเทศที่เจริญแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ในทวีปยุโรป ญี่ปุ่นที่อยู่ในเอเชีย มีคนหันมาปฏิบัติสมาธิกันอย่างมากมาย ซึ่งมีข้อมูลอยู่ในนิตยสารไทม์(Time) เป็นนิตยสารระดับโลก ที่ได้มีการสำรวจบันทึกรายละเอียดของคนที่ทำสมาธิ (meditation) ว่ามีผลเป็นเช่นไรในแต่ละกลุ่มอาสาสมัคร และได้สรุปจำนวนคนที่มาทำสมาธินั้นมีจำนวนหลายสิบล้านคนเช่นที่นิวยอร์กประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นต้น นั่นก็แสดงว่าสมาธิเป็นของสากลไม่ว่าชาติใดภาษาใดศาสนาใดสามารถที่จะประพฤติปฏิบัติโดยไม่ขัดกับหลักความเชื่อ  เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความสุขความสงบอย่างแท้จริงครับ


       
     แล้วคุณล่ะต้องการความสุขอย่างแท้จริงหรือไม่? ยังเหน็ดเหนื่อยแสวงหากันอยู่หรือเปล่า?  แต่ถ้าหากคุณได้อ่านบทความนี้จบแล้ว ลองเปิดใจให้กว้างศึกษาและลงมือปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ ตามหลักการในพระพุทธศาสนาแล้วคุณจะได้พบกับความสุขที่แท้ ที่ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยหรือต้องจ่ายเงินใดๆ เพียงแต่ ได้ ลองทำใจให้หยุดนิ่งเบาๆไว้ในตัวของเรา ตามแบบอย่างหลักการในพระพุทธศาสนา คุณก็จะได้พบความสุขที่แท้จริงครับ!

บุญที่ฉันปลื้มใจที่สุด!

     คนส่วนใหญ่ ยังไม่รู้ว่าเกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน เป้าหมายชีวิตที่แท้จริงคืออะไร เมื่อเป็นเช่นนี้ มนุษย์ทั้งหลาย จึงแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น เบียดเบียนทำร้ายซึ่งกันและกันเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ สังคมโลกจึงเกิดความวุ่นวายไปทั่วด้วยตกเป็นทาสของความโลภ โกรธ หลง แต่เพราะได้กัลยาณมิตรคือเพื่อนที่แนะนำให้ทำสิ่งที่เป็นความดี ต่อตนเองและสังคม ได้มาศึกษาธรรมะในพระพุทธศาสนา จึงเข้าใจว่าอะไรดีอะไรชั่วอะไรควรทำ ไม่ควรทำ สังคมในโลกจึงยังคงอยู่ได้ในปัจจุบัน ฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ได้รับโอกาส ดีๆแบบนี้คือการได้รู้จักเพื่อนที่ดีหรือกัลยาณมิตร ให้ฉันมาวัดพระธรรมกาย ได้ศึกษาธรรมะจากหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดธรรมกายและพระอาจารย์ที่ได้เทศน์สอน ทำให้เข้าใจ การดำเนินชีวิตที่ถูกทำนองคลองธรรม ตามหลักพระพุทธศาสนา ฉันและเพื่อนๆจึงตอบแทนพระพุทธศาสนาและอยากให้สังคมไทยเราเป็นสังคมที่สงบสุขอย่างแท้จริง เมื่อมีบุญใหญ่อะไรก็ตามพวกเราก็จะไปชักชวนประชาชนทั้งหลาย ให้มาร่วมบุญร่วมงานในวันบุญใหญ่ๆต่างๆ เช่น ชวนเด็กๆให้มาบวชสามเณร ชวนชายไทยแท้แท้ให้มาบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิษุแสนรูปทั่วไทย ชวนประชาชนให้มาเปิดบ้านกัลยาณมิตร สวดมนต์ปฏิบัติธรรมฟังธรรมจากพระอาจารย์ที่จะไปเทศน์ให้ที่บ้าน ชวนคนมาทำบุญวันสำคัญทางพระศาสนา ต่างๆ เป็นต้น




       ฉันและหมู่คณะต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจ เอาชีวิตเป็นเดิมพัน เพราะในแต่ละที่ที่เราลงทำหน้าที่ชักชวนคนทั้งหลาย ให้มาสั่งสมบุญมาสร้างความดีนั้น ไม่ใช้ง่ายเพราะ บางคนก็ต่อต้านบางที่ที่ไปก็ค่อนข้างอันตรายเดินทางลำบากแต่เพราะเราที่ได้พบเจอสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดที่สอนเราในพระพุทธศาสนา  พวกเราจึงมีหัวใจที่อยากจะให้ คนทั้งหลายได้มารู้ความจริงพบความสุขที่แท้จริงและรู้เป้าหมายในชีวิตที่แท้จริง  เพื่อจะให้ สังคมเกิดความสงบสุขอย่างแท้จริงในปัจจุบันให้ได้
 ณ.บัดนี้จากการทุ่มกำลังกายกำลังใจ เอาชีวิตเดิมพันในการชักชวน ประชาชนทั้งหลายของฉันและหมู่คณะทำให้คนทั้งหลายเหล่านั้นมาศึกษาธรรมมาสร้างความดี หลายคนได้มาบวชเป็นพระภิษุ สามเณรที่อยู่ใน พระพุทธศาสนา ทุ่มเทในการศึกษาพระธรรมวิน้ย  ปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ เป็นพระอาจารย์ เทศน์สอน ธรรมะ ให้กับประชาชนทั้งหลายให้เข้าใจ การทำความดีที่แท้จริง  ฉันได้เห็นคนทั้งหลายที่เคยชวนมาก็มาเป็นอุบาสกอุบาสิกาช่วยทํานุบํารุง พระพุทธศาสนา อย่างเอาชีวิตเดิมพันในวัดพระธรรมกายและตามวัดต่างๆ ทั่วโลก



    ฉันจึงปลื้มใจทุกครั้งยามเมื่อนึกถึง การทำความดีโดยการเป็นกัลยาณมิตรชักชวนคนทั้งหลายให้มาศึกษาธรรมะ ปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาและ มาทำความดีสร้างบารมี ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาต่างๆ ซึ่งบัดนี้ได้เห็นคนดีที่แท้จริงเกิดขึ้นในสังคมมากมาย เห็นเขาพบความสุขที่แท้จริงในแต่ละครอบครัว จึงสมดังพุทธโอวาทขององค์เสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า "กัลยาณมิตรเป็นที่สุด ของพรหมจรรย์"



    แล้วท่านผู้อ่านล่ะ! นึกถึงการกระทำในอดีตที่ผ่านมา หรือในแต่ละวันที่ผ่านมา มีความปิติใจปลื้มใจในการกระทำของเราแค่ไหน และเรามีความสุขกับชีวิตในปัจจุบันอย่างแท้จริงหรือไม่ ถ้ายังรู้สึกว่ายังไม่พบความสุขที่แท้จริงก็ลองมาศึกษาธรรมปฏิบัติธรรม ณ. วัดพระธรรมกายสิครับ!
   

Wednesday 9 March 2016

หลวงพ่อธัมมชโยที่ฉันรู้จัก!

  เราเข้าวัดมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2538  ถึงปัจจุบันก็ 21 ปีแล้ว เห็นการกระทำของหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายหรือหลวงพ่อธัมมชโย ท่านเป็นพระภิกษุที่สง่างามนุ่มห่มเรียบร้อยยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นกันเอง น้ำเสียงมีพลังน่าฟังน่าเข้าใกล้ดูอบอุ่นจริงใจและน่าเลื่อมใส  ท่านจะทุ่มเทกำลังกายกำลังใจในการสอนการทำสมาธิให้กับสาธุชนด้วยดีเสมอมา ทั้งยังชอบส่งเสริม ชักชวนให้มีการอบรมคุณธรรมจริยธรรมให้กับประชาชนทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกอย่างต่อเนื่องตลอดมา




     ให้แง่คิดข้อคิดในการไปชักชวนคนในสังคมให้มาบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ชักชวนให้มาทำความดีในงานบุญต่างๆเช่นวันมาฆบูชาให้มาตักบาตรนั่งสมาธิและจุดประทีปบูชาพระสัมมาพระพุทธเจ้า โดยท่านจะให้ข้อคิดให้เกิดแรงบันดาลใจแก่ พระภิษุ อุบาสก อุบาสิกาให้หมั่นไปชักชวนให้คนมาวัดฟังธรรม ปฏิบัติธรรม ในวันธรรมดาถ้าว่างและในทุกๆวันอาทิตย์เป็นต้น ท่านเป็นผู้ที่ มีเมตตาต่อทุกๆคนไม่ว่าร้ายพูดร้ายกับคนที่เคยว่าร้ายท่าน  ไม่วิภาควิจารณ์เรื่องราวในสังคมต่างๆ มีแต่แสดงธรรมขององค์เสด็จพระสัมมาพระเจ้าที่ฟังแล้ว เข้าใจง่ายสามารถนำไปปรับปรุงใช้ในชีวิตประจำวันได้ และปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้กับประชาชนด้วยดีเสมอมา



ในช่วงค่ำเห็นท่านลงให้ความรู้ในพระพุทธศาสนากับประชาชนทั่วโลกทุกวัน ที่จะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกแทบไม่ขาดเลยถ้าไม่ป่วย เป็นผู้ที่มีคำพูดที่เป็นข้อคิดให้เกิดแรงบันดาลใจในการไปทำความดีให้กับทุกคนได้ดีมากๆ  มีวาจาที่ไพเราะที่ควรเอาเป็นแบบอย่าง มีกำลังใจที่สูงส่งไม่เคยเห็นท่านบ่นว่าเหนื่อยท้อแท้หรือหวั่นไหวต่อเหตุการณ์ที่เป็นข่าวอยู่ในปัจจุบันตอนนี้  ท่านจะสนับสนุนให้มีโครงการปลูกฝังคุณธรรมศีลธรรมอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี ในความคิดของท่าน มีแต่เรื่องของการอยากจะให้สังคมโลกเกิดความสงบสุขอย่างแท้จริง

    
     นี่ก็เป็นสิ่งที่ได้เห็นได้สัมผัสจากการที่ได้เห็นท่านเจ้าคุณพระเทพญาณมหามุนีหรือหลวงพ่อธัมมชโย ตลอดที่ผ่านมา  ท่านไม่เคยหยุดในสร้างบุญบารมีอย่างเต็มที่โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน "เพื่อจะให้เกิด สันติภาพ สันติสุขอย่างแท้จริงให้แก่คนทั้วโลกในปัจจุบันให้จงได้! 

Tuesday 8 March 2016

วัดพระธรรมกายที่ฉันรู้จัก!

   🔆เราและครอบครัวมีแม่และน้องๆ มาวัดพระธรรมกาย 20กว่าปีแล้ว ภาพที่เห็น อย่างสม่ำเสมอในวัดพระธรรมกายเป็นวัดใหญ่มากๆที่สะอาด เป็นระเบียบ กว้างขวางใหญ่โตเดินไปแต่ละที่เมื่อยขามากๆ  มาแล้วรู้สึกอบอุ่นเพราะ มีแต่คนยิ้มแย้มแจ่มใส และเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เราทำบุญที่วัดนี้ ก็แปลเปลี่ยนเป็นสิ่งก่อสร้างต่างๆไม่ว่าจะเป็น วิหารที่ประดิษฐานรูปหล่อทองคำของหลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ มหาธรรมกายเจดีย์  โรงเรียนปริยัติธรรมที่เอาไว้ อบรมคุณธรรมและศึกษาพระธรรมวินัยสำหรับพระภิกษุ สามเณรและประชาชนผู้อยากจะเรียนรู้พระธรรมคำสั่งสอนนี้ 



             มาที่วัดพระธรรมกายเราจะรู้สึกทุกครั้ง ว่าเราเป็นเจ้าของวัด หรือทุกคนเป็นเจ้าของวัดเพราะเราได้มีส่วนในการก่อสร้างสิ่งต่างๆในวัดนี้  อีกทั้งได้มีส่วนร่วมในการ พัฒนาอบรมคุณธรรมในกับเยาวชน และคนในสังคมทั่วโลก ที่เป็นโครงการจัดบรรพชาอุปสมบทให้กับชาย ไทยแท้ๆ บ่อยๆ ได้เห็นรอยยิ้มเพื่อนแท้ๆที่รักในการสร้างความดีที่มารวมกันในวัดจึงอบอุ่นทุกครั้งที่มาวัดพระธรรมกาย  เหมือนบ้านใหญ่หลังที่ 2 ของพวกเรา มาแล้วก็ได้มาพบปะพูดคุย กับเพื่อนๆที่มาร่วมสร้าง สิ่งที่เป็นศูนย์รวมในการทำความดี ที่สำคัญมาทุกครั้งเราก็จะได้รับฟังธรรมะโอวาทจากทางท่านเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายพระเทพญาณมหามุนีหรือรองเจ้าอาวาสหลวงพ่อทัตตชีโวและพระอาจารย์ต่างๆ ที่คอยให้ธรรมะ ตามหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า




    ที่ท่านอธิบายทำให้เข้าใจง่ายๆเกิดแรงบันดาลใจ กำลังใจที่จะนำไปประพฤติปฏิบัติและสามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตในสังคมได้อย่างแท้จริงเราจึงเป็นคนที่มีเป้าหมายในชีวิตในการที่จะสร้างความดีอย่างเต็มที่เต็มกำลังตามแบบอย่างของการสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ในอดีตที่มีเรื่องราวอยู่ในพระไตรปิฎก!



     เพราะฉะนั้นจึงขอเชิญชวนทุกท่านที่ยังไม่เคยมาได้ลองมาพิสูจน์ด้วยตัวของเราเองเก็จะทราบว่าเป็นเช่นไร ไม่ใช่ฟังจากข่าวหรือจากปากของคนอื่นที่ยังไม่เคยมา เชิญมาสิครับแล้วคุณจะรู้ว่าเป็นเช่นไร!

Sunday 6 March 2016

อาทิตย์ต้นเดือนวันที่ 6 มีนาคม 2559 ที่ฉันปลื้มใจ

    วันนี้ฉันมาที่สภาของวัดพระธรรมกาย ซึ่งที่นี่เขาเรียกชื่อเต็มๆว่าสภาธรรมกายสากล อาทิตย์ทุกต้นเดือน ที่วัดจะมีงานบุญใหญ่ และไฮไลท์ที่สำคัญก็คือการบูชาข้าวพระ ซึ่งจะนำไปถวาย กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่อยู่ในนิพพาน ตามที่ หลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายท่านเคยได้อธิบายซึ่งทำสืบต่อเนื่องกันมาตั้งแต่สมัยหลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ โดยคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูงผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกายและคุณยายทองสุข สำแดงปั้นเป็นผู้ เริ่มต้นในการบูชาข้าวพระนี้ซึ่งสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน 

    ตอนเช้าได้ตักบาตรมีพิธีกรรมตักบาตร  เห็นผู้ใจบุญมากันมากมาย ที่มาจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ หน้าตายิ้มแย้มเบิกบาน อิ่มในบุญ ช่วงสายมีการนั่งสมาธิโดยท่านเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายเป็นผู้นำนั่ง มีคณะสงฆ์ และผู้ใจบุญทั้งหลายมาร่วมนั่งสมาธิ พระภิกษุสงฆ์มากมายคนก็มากมาย นั่งสมาธิกับเงียบสงบ เหมือนกับไม่มีใครอยู่เป็นเรื่องแปลกแต่จริง ฉันรู้สึกสงบใจไปด้วย และรู้สึกมหัศจรรย์ 

                       
 
     การบูชาข้าวพระมีสิ่งของที่จัดเรียงอย่างสวยงาม ทั้งผลไม้และของคาวหวานตั้งอยู่บนชั้นซึ่งจัดเรียงอย่างปราณีตเห็นแล้วตระการตาสวยงาม 
    คนใจบุญทั้งหลายที่เราเห็นส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีการศึกษาและมีฐานะดีจากที่ได้คุยกันซึ่งส่วนใหญ่ก็ล้วนมาเป็นประจำทุกเดือน แม้อาทิตย์ธรรมดาก็มากันมาทำบุญที่วัดพระธรรมกาย ฉันนึกถึงบุญในวันนี้ตั้งแต่เช้าจนค่ำ รู้สึกปลื้มปิติใจ ที่ได้ทำความดีอย่างเต็มที่และเป็นต้นแบบแบบอย่างให้กับคนรุ่นหลังได้มาประพฤติปฏิบัติตามสืบต่อไป

    ขอเชิญชวนท่านที่ยังไม่เคยมา หรือยังมีความสงสัยก็ควรที่จะลองมาพิสูจน์ ลองมาเปิดใจให้กว้างมาเที่ยวชมงานวัดที่แท้จริงที่วัดพระธรรมกายกันครับ!

Saturday 5 March 2016

"เราประทับใจอะไรในวัดพระธรรมกาย"

     จากการที่ได้มาที่วัดพระธรรมกาย บ่อยๆตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ปีพุทธศักราช 2538 ถึง 2559 มีความประทับใจในหลายๆอย่างของที่วัดนี้ก็ยังคงมีอยู่เสมอ ซึ่งสามารถสรุปแบ่งเป็นหัวข้อได้ดังนี้

1. เราประทับใจ ความเป็นระเบียบ เรียบร้อย แม้ว่าจะกว้างใหญ่อย่างไร แต่มีความเป็นระเบียบและสะอาด ที่สามารถเป็นแบบอย่างให้กับหลายๆสถานที่ก็ยังมีให้เห็นอยู่ถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นคำสั่งสอนของผู้ที่ให้กำเนิด วัดพระธรรมกาย หรือผู้ที่ริเริ่มให้มีการ สร้างวัด นั่นก็คือคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง ที่ท่านเป็นผู้ที่ชักนำอบรมสั่งสอน ให้กลุ่มคนหนุ่มนักศึกษา ได้มาออกบวช เป็นพระภิษุ เป็นอุบาสกเป็นอุบาสิกาในปัจจุบัน



2. เราประทับใจธรรมะที่ได้จากเจ้าคุณพระเทพญาณมหามุนีหรือหลวงพ่อธัมมชโยและ หลวงพ่อทัตตชีโวอีกทั้งพระอาจารย์หลายๆรูปที่ท่านได้แสดงธรรม ให้กับเรา เกิดความเข้าใจในเรื่องอะไรบุญอะไรบาป ดีชั่ว ควรไม่ควรอย่างไร เรื่องของทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ที่สำคัญรู้ว่าเป้าหมายชีวิตว่าเราควรจะต้องทำอย่างไรจึงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดทั้งแก่ตนเองและคนอื่นๆทั่วโลก



3. เราประทับใจ เราประทับใจกัลยาณมิตรที่แนะนำประโยชน์ ก็คืออุบาสกอุบาสิกา ในตอนนั้นที่อยู่ ฝ่ายดูแลอาสาสมัคร ช่วยมาชี้แนะเรื่องงานบุญต่างๆให้กับเราตั้งแต่ตอนมาใหม่ๆ มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มจริงใจ และมีคำอธิบาย ที่มีหลัก การอุดมการณ์ที่ มีเป้าหมาย ที่จะยกตนและสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นจากทุกข์  แนะให้ทำ นำให้ดู อยู่เป็นกำลังใจ ทำให้เราสามารถทุ่มเทในการ สร้างบุญบารมีหรือจัดงานเตรียมงานบุญต่างๆได้อย่างเต็มที่เป็นกำลัง โดยที่ไม่มีข้อแม้ข้ออ้าง



4. เราประทับใจศาสนวัตถุศาสนสถาน เช่น พระพุทธรูป สิ่งแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีความงดงาม น่าเลื่อมใส ดูแล้วสงบกายวาจาใจ รู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นเป็นศิลปะ ที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง รูปแบบของสิ่งก่อสร้างไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ เจดีย์วิหารมุ่งเน้นให้ใช้ประโยชน์ได้มากที่สุด ประหยัดสุดประโยชน์สูง แข็งแรงและดูแลรักษาง่าย
เป็นความประทับใจแบบย่อๆของเราที่จริงๆแล้วพรรณาไม่หมด!
     
      จึงขอเชิญชวนท่านที่ยังไม่เคยลองมาที่วัดพระธรรมกายได้ให้โอกาสกับตัวเองเปิดใจให้กว้างยอมรับสิ่งใหม่ๆแล้วลองมาพิสูจน์ด้วยตา ด้วยการมาสัมผัสอย่างแท้จริงของตัวเอง  คุณจะรู้ว่าเป็นเช่นไรครับ!

Friday 4 March 2016

🔆🚩"หลวงพ่อธัมมชโย ให้อะไรแก่ฉัน"

     ผมจำได้ว่าเมื่อครั้งที่ผม ถูกพาเข้าวัดด้วย แม่และน้องน้องของผม แนะนำให้มา วันนั้นที่มาเปิดได้ รับฟังคำสอนดีๆ จากท่านเจ้าคุณเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายซึ่งถ่ายทอดโดย อุบาสกอุบาสิกา 

อย่างเช่นว่า เราเกิดมา เพื่อสร้างบารมี ซึ่งผมไม่เคยทราบ รู้แต่เพียงว่าเกิดมาเพื่อที่จะ มาทำงานแต่งงาน แล้วก็มีลูกมีหลานสืบทอดสมบัติเรา แต่มาที่นี่ผมก็รู้ว่าเป้าหมายจริงๆแล้วมันยิ่งใหญ่กว่านั้น ที่ท่านหลวงพ่อธัมมชโยได้กล่าวสอนว่าเราเกิดมาเพื่อสร้างบุญบารมีให้มากๆโดยที่เราจะสามารถสร้างความสงบสุขที่แท้จริงให้กับสังคมโลกของเรา ตายไปแล้วก็มีสุขคติภูมิเป็นที่ไป ผมก็ถามกลับไปว่าแล้วหลวงพ่อธัมมชโยท่านบอกหรือเปล่าว่า 



       การสร้างบุญบารมีทำอย่างไร อุบาสกอุบาสิกาเหล่านั้นก็ชี้แจงว่า ก็คือการให้ทานรักษาศีลและเจริญภาวนา ซึ่งหลวงพ่อธัมมชโยท่านก็ได้อธิบายอีกว่า ที่จะขออธิบายสรุปแบบย่อย่อคือ การให้ทานก็คือ การให้โดยบริสุทธิ์ใจ เช่น การตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ทุกวัน การสละสิ่งของให้กับคนยากไร้หรือประสบภัยพิบัติ เป็นต้น การรักษาศีล 5 ศีล 8 อย่างเคร่งครัด การเจริญภาวนาก็อย่างเช่น การสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยและนั่งสมาธิให้ได้ทุกวัน   ทำเช่นนี้ ตลอดชีวิต ก็ย่อมจะมีความสุขความเจริญรุ่งเรืองทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ซึ่งผมได้ลองปฏิบัติแล้วก็เป็นอย่างที่หลวงพ่อธัมมชโยท่านสอน
   
        ทุกวันนี้ผมมีความสุขที่แท้จริง  ทุกๆวันที่ผ่านไปนั้น ทรงคุณค่าด้วยความดีที่กระทำ ผมมีเป้าหมายชีวิตที่ถูกต้องและยิ่งใหญ่  
       
       "จึงขอเชิญท่านที่ยังไม่เคยมาให้ลองมาพิสูจน์ด้วยตัวของท่านเองแล้วท่านจะทราบว่าเป็นจริงดังคำที่ผมบอกหรือเปล่าครับ!      



Thursday 3 March 2016

"สิ่งดีๆที่วัดพระธรรมกายให้ฉัน"

                     
       ตั้งแต่ผมมาวัดพระธรรมกายครั้งแรกในปี พุทธศักราช๒๕๓๘ โดยการชักนำของแม่และน้องสาวทำให้ผมได้รู้ว่าวัดที่ใหญ่กว้างขวางแต่สะอาดร่มรื่น เป็นอย่างไร! 

      การให้ที่แท้จริงจากอุบาสกอุบาสิกาและคณะสงฆ์ที่นี่ทำให้ผมอยากจะเป็นผู้ให้ที่ไม่หวังผลตอบแทน เพียงแต่อยากจะให้สังคมเกิดคนดีๆ ที่ไปทำให้สังคมมีความสงบสุขได้อย่างแท้จริงได้รับทราบรับฟังเข้าใจเรื่องของการทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว รู้ว่าสวรรค์และนรกนั้นมีอยู่จริงใครทำดีย่อมมีสุคติภูมิเป็นที่ไปใครทำชั่วย่อมมีทุกขคติภูมิเป็นที่ไป ทำให้ผมดำเนินชีวิตอยู่ในศีลในธรรม เป็นคนดีที่โลกต้องการและมีความสุข ที่ได้ทำสิ่งดีๆให้กับตนเองครอบครัวและสังคม มีความภาคภูมิใจที่เป็นคนพุทธคือพระพุทธศาสนาที่สอนให้เราเป็นผู้ที่ละชั่ว ทำความดี ทำใจให้ผ่องใสซึ่งหาไม่ได้จากความเชื่ออื่นๆ ที่ผมเคยศึกษาผ่านมา   มีความสุขทุกครั้งที่ได้ช่วยเหลือคนอื่นและได้ทำบุญต่างๆ ในแต่ละวัดที่ไป  จากการได้รับฟังคำสั่งสอนคำแนะนำตามหลักธรรมของคณะสงฆ์และเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย


       จึงอยากจะเชิญชวน ท่านทั้งหลายที่ยังไม่เคยมาหรือหวาดระแวงเชื่อสื่อบางสื่ิอ ที่พยายามชี้นำว่าวัดพระธรรมกายเป็นวัดที่ต้อนรับแต่คนที่มีเงินและสอนคำสอนที่ผิดผิดเป็นต้น ผมอยากให้ท่านที่อ่านบทความนี้ได้ลองมาพิสูจน์ ลองมาที่วัดพระธรรมกายดูแล้วท่านจะได้ทราบความจริงว่าเป็นเช่นไรครับ!   
      
        สมดังสุภาษิตที่โบราณกล่าวว่า "หากไม่เข้าถ้ำเสือก็คงจะไม่ได้ลูกเสือ" ต้องมาเห็นกับตามาสัมผัสด้วยตัวเราเองก็จะรับรู้ว่าความจริงเป็นเช่นไรครับ!     

Wednesday 2 March 2016

ความประทับใจที่ได้มาวัดพระธรรมกายครั้งแรก!

    🚘จำได้ว่าตอนที่มาวัดพระธรรมกายครั้งแรก ตอนนั้นรู้สึกว่าสถานที่นี้มีความสะอาด มากกว่าวัดที่เราเคยไป
                ...       
รู้สึกว่าสบายใจและคนก็เป็นมิตรมากๆอาหารก็ฟรี แม้จะมาลำบากด้วยรถเมล์สีขาวแต่ก็ไม่เสียค่ารถ


     ไม่มีการบังคับให้ทำบุญ! สุดแล้วแต่ว่าอยากจะทำหรือไม่ตนไม้ภายในวัดร่มรื่น เจ้าหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นมิตรแบบจริงใจ  ทำให้เรารู้สึกว่าอบอุ่นและอยากจะมาอีก ไม่มีพวกหมาแมวมารบกวนทำความสกปรกให้กับบริเวณวัดอย่างที่เราเคยไปวัดอื่นๆที่ผ่านมา


     อีกทั้งยังได้รับฟังการแสดงธรรมของหลวงพ่อรองเจ้าอาวาสซึ่งตอนนั้นเราเข้าใจว่าเป็นเจ้าอาวาสคือพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโวเรื่องเกี่ยวกับมงคลชีวิต 38 ประการ อธิบายได้ดีมากมีการยกตัวอย่างทำให้เข้าใจได้ง่าย  เราจึงรู้สึกว่าอยากจะมาวัดอีกในครั้งต่อไป!
   
    แล้วคุณหล่ะ "มาวัดพระธรรมกายครั้งแรกได้อย่างไร???"ครับ!